กรมอนามัย เตือนฤดูร้อนปีนี้หนักกว่าปี 65 คาดสูงถึง 43 องศา อันตรายชี้กลุ่มเสี่ยงป้องกันและดูแลสุขภาพรับมือร้อน
Home » กรมอนามัย เตือนฤดูร้อนปีนี้หนักกว่าปี 65 คาดสูงถึง 43 องศา อันตรายชี้กลุ่มเสี่ยงป้องกันและดูแลสุขภาพรับมือร้อน
- admin
- จำนวนผู้เข้าชม : 1,758
กรมอนามัย เตือนฤดูร้อนปีนี้หนักกว่าปี 65 คาดสูงถึง 43 องศา อันตรายชี้กลุ่มเสี่ยงป้องกันและดูแลสุขภาพรับมือร้อน
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณะสุข แนะให้ประชาชนป้องกันตัวเองจากความร้อน เนื่องจากฤดูร้อนปีนี้หนักกว่าปี 65 คาดสูงถึง 43 องศา อันตรายชี้กลุ่มเสี่ยงป้องกัน และดูแลสุขภาพรับมือร้อน
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยให้ความสำคัญกับการดูแลและป้องกันสุขภาพของประชาชน จึงร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาดำเนินการเฝ้าระวัง และสื่อสารเตือนภัย ด้านสุขภาพในช่วงฤดูร้อน ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งเฝ้าระวังอาการและพฤติกรรมการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากความร้อนด้วยอนามัยโพล เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจะก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยจากความร้อนตั้งแต่อาการเล็กน้อย ได้แก่ ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ เป็นตะคริวจากความร้อน มีผื่นแดงตามผิวหนัง หรืออาจมีอาการรุนแรงจนเป็นโรคฮีตสโตรก ซึ่งหากไม่ได้รับการปฐมพยาบาลทันทีอาจทำให้เสียชีวิตได้โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น กลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุหญิงตั้งครรภ์ และผู้มีโรคประจำตัว รวมถึงกลุ่มอาชีพที่ต้องทำงานหนักกลางแจ้ง เช่น งานก่อสร้างเกษตรกร
กรมอนามัย จึงขอแนะนำให้ประชาชนป้องกันตัวเองจากความร้อน ได้แก่ ดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ โดยไม่ต้องรอกระหายน้ำ หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงกลางวันหรือช่วงที่มีสภาพอากาศร้อนจัดสวมเสื้อผ้าสีอ่อน ระบายอากาศได้ดี สวมหมวกปีกกว้าง แว่นกันแดด และทาครีมกันแดดทุกครั้งเมื่อมีความจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง รวมทั้งหลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม และแอลกอฮอล์ทั้งนี้ หากอุณหภูมิสูงสุดขึ้นไปที่ 43 องศาเซลเซียสควรงดทำกิจกรรมกลางแจ้ง และหมั่นสังเกตอาการเสี่ยงจากโรคฮีตสโตรก ได้แก่ เหงื่อไม่ออก สับสนมึนงง ตัวร้อนจัด ผิวหนังเป็นสีแดงและแห้ง
โดยหากพบผู้ป่วยโรคฮีตสโตรกให้รีบตามแพทย์ หรือโทร. 1669 และพาผู้ป่วยหลบเข้าที่ร่มหรือห้องมีความเย็น จัดผู้ป่วยให้นอนราบ ยกเท้าและสะโพกสูง รวมถึงถอดเสื้อผ้าออกเท่าที่จำเป็นเพื่อระบายความร้อน ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตามตัวหรือวางถุงน้ำแข็งที่คอ รักแร้ และขาหนีบ หากผู้ป่วยหมดสติให้จับนอนตะแคงเพื่อป้องกันโคนลิ้นอุดทางเดินหายใจ และรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็วทั้งนี้ สามารถรับคำแนะนำในการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากความร้อนได้ที่เว็บไซต์กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ (https://hia.anamai.moph.go.th/th) และ Facebook กรมอนามัย และกองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ รวมถึงสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมอนามัย 1478 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
ที่มา : เว็บไซต์สยามรัฐ