สถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดยะลา ข้อมูล ณ วันที่ 29 มี.ค.63 ผู้ป่วยติดเชื้อยืนยัน สะสม 35 ราย รายใหม่ 7 ราย รักษาหายสะสม 3 ราย เสียชีวิต 1 ราย นอนรักษาที่โรงพยาบาลจำนวน 31 ราย (รพ.ยะลา 16 ราย, บันนังสตา 11 ราย, รามัน 3 ราย, ยะหา 1 ราย) พบมีผู้ที่สัมผัสที่มีอาการ รวม 291 ราย รอผล (LAB) ตรวจเชื้อเพื่อยืนยันจำนวน 21 ราย
29 มี.ค.63 นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ประชุมเจ้าหน้าที่ศูนย์เฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด19 ของจังหวัดยะลา เพื่อประเมินติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ห้องประชุมศรียะลา อาคาร 3 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดยะลา สถานการณ์ล่าสุดยะลามีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ทั้งนี้ได้มีการออกประกาศเพิ่มเติม คือ ห้ามประชาชนเดินทางเข้า-ออก ข้ามเขตพื้นที่จังหวัดยะลา อันเนื่องมาจากเป็นพื้นที่ ที่เสี่ยงต่อการติดโรคโควิด – 19 เว้นแต่ เพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาล การขนส่งสินค้าที่จำเป็น สินค้าอุปโภค -บริโภค การไปรษณีย์ อุปกรณ์เครื่องมือเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ยานพาหนะเพื่อการกู้ชีพ กู้ภัยฉุกเฉิน รถพยาบาล และยานพาหนะของทางราชการ หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ทั้งนี้ ผู้ได้รับการยกเว้น ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด คือ ห้ามผู้ที่เป็น หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคติดต่ออันตราย หรือโรคระบาด เดินทางเข้า – ออกหมู่บ้านหรือที่เอกเทศ สำหรับที่แยกกัน หรือกักกัน และหรือข้ามเขตพื้นที่จังหวัดยะลา เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหนักงานควบคุมโรคติดต่อ อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วน หากปล่อยให้ล่าช้าไป จะก่อให้เถิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิ์โต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรค 6 (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการการทางปกครอง พ.ศ. 2539 หากผู้ใดฝ้าฝืนคำสั่งนี้ มีฐานความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับและ หรือเป็นความผิด ตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ซึ่งมีอัตราโทษคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ด้าน นายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า กรณีผู้ป่วย COVD-19 จังหวัดยะลาที่มีรายงานเสียชีวิต 1 รายในวันนี้ นับเป็นการเสียชีวิตของผู้ป่วย รายแรกของจังหวัดยะลา ผู้เสียชีวิต เป็นเพศชาย อายุ 54 ปี อาชีพ ค้าขาย สัญชาติไทย นับถือศาสนาอิสลามอาศัยอยู่ใน อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ผู้ป่วยมีประวัติเดินทางไปประเทศมาเลเชียเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2563 เพื่อส่งบุตรสาวที่เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน และเดินทางกลับ วันที่ 13 มีนาคม 2563 เริ่มป่วยวันที่ 15 มีนาคม2563 และไปพบแพทย์ในวันที่ 16 มีนาคุม 2563 ด้วยอาการไข้ 37.6 องศาเซียลเชียส ไอเจ็บคอ หายใจ ลำบาก อาการปอดอักเสบระยะรุนแรง ผู้ป่วยมีโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ผลตรวจ ยืนยันเป็นผู้ติดเชื้อ COVD-19 เมื่อ วันที่ 18 มีนาคม 2563 ทีมแพทย์ให้การรักษาอย่างเต็มที่ ดูแลอย่างต่อเนื่อง รักษาด้วยยาต้านไวรัสและยาปฏิชีวนะ ใส่เครื่องช่วยหายใจ อาการไม่ดีขึ้นและเสียชีวิต สำหรับผู้สัมผัสร่วมบ้าน มีจำนวน 5 คน พบ 2 ราย เป็นผู้ป่วยยืนยันนอนพักรักษาตัวใน รพ.อีก 3 รายไม่พบเชื้อและแยกกักตัวเองอยู่ที่บ้าน
ส่วนกรณีนักศึกษาไทยในปากีสถาน ที่จะเดินทางกลับจังหวัดยะลา ประมาณ 30 คน ในวันพรุ่งนี้ ก็จะมีมาตรการดูแลนักศึกษากลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง Covid-19 มีการตรวจสุขภาพเบื้องต้น ถ้ามีอาการเป็นบวกหรือยืนยัน ก็ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล ถ้าไม่พบการติดเชื้อก็จะเข้าศูนย์สังเกตอาการ ระดับอำเภอ ตามภูมิลำเนาของนักศึกษาแต่ละคน ซึ่งมีการเตรียมพร้อมไว้แล้ว เพื่อสังเกตอาการ 14 วัน ถ้าไม่มีอาการก็สามารถกลับไปอยู่ที่บ้านได้